โรงเรียนแสงวิทยา ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๕ ถนนสุดบรรทัด อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี บนเนื้อที่ ๖ ไร่ ๘๖ ตารางวาโดย คุณปู่สุวรรณ ต.แสงจันทร์เป็นผู้ก่อตั้งเมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๕ คุณปู่สุวรรณ ต.แสงจันทร์เป็นคหบดีซึ่งเป็นที่รู้จักและนับหน้าถือตาใน อ.แก่งคอย ท่านเป็นพ่อค้าไม้แปรรูปเป็นรายแรกใน อ.แก่งคอยต่อมาได้กิจการร้านขายทองรูปพรรณเตียเซ่งไถ่โรงแรมเทพนิมิตรโรงแรมเทพบรรทมโรงภาพยนตร์แสงจันทร์สถานีบริการน้ำมันตราหอยและตราดาวท่านยังได้รับเลือกเป็นประธานพ่อค้าชาวแก่งคอยอยู่ถึง ๑๓ ปีด้วยความที่ท่านมีบุตรถึง ๑๘ คนท่านจึงมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะส่งเสริมการศึกษากุลบุตรกุลธิดาของชาวอำเภอแก่งคอยให้มีการศึกษาที่ดีมีความรู้ความสามารถจึงได้ก่อตั้งโรงเรียนแสงวิทยาขึ้นเมื่อวันที่๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๕ โดยท่านเป็นเจ้าของโรงเรียนโดยเปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มีครู ๙ คน นักเรียน ๒๒๒ คน ในปีถัดมาจำนวนนักเรียนได้เพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วโรงเรียนจึงจำเป็นต้องขยายอาคารเรียนจากอาคารไม้ชั้นเดียวเป็นอาคารไม้ ๒ ชั้น เพื่อรองรับนักเรียนที่เพิ่มปริมาณมากขึ้น
พ.ศ. ๒๕๑๔ คุณครูเสาวลักษณ์ กมลโรจน์สิริ (นามเดิมคุณครูเกยูร ต.แสงจันทร์) เป็นคุณครูใหญ่
พ.ศ. ๒๕๓๖ คุณครูวิฑูรย์ ต.แสงจันทร์ เป็นผู้รับใบอนุญาต และคุณครูใหญ่
โรงเรียนได้รับการยอมรับเป็นอย่างยิ่งจากท่านผู้ปกครองได้ส่งบุตรหลานเข้ารับการศึกษามากที่สุดของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดสระบุรี ปัจจุบันคุณครู ดร.พัทธโรจน์ กมลโรจน์สิริ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
พ.ศ. ๒๕๕๒ รับรางวัลพระราชทานระดับประถมศึกษาขนาดใหญ่
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร ระดับประเทศ
ได้รับคัดเลือกเป็นโรงเรียนต้นแบบส่งเสริมทันตสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี
รางวัลโรงเรียนรักการอ่านยอดเยี่ยมของ สพฐ.
เป็นโรงเรียนคู่ฝันได้คุณภาพระดับดี ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระบุรีเขต ๒
รางวัลเหรียญทอง นวัตกรรมเป็นเรื่องเป็นราว
พ.ศ. ๒๕๕๓ รางวัลเหรียญทอง นวัตกรรมลูกเสืออนุบาล
บุคลากรครูได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี”
บุคลากรครูได้รับรางวัลครูภาษาไทยดีเด่นแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๔ ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี”
ได้รับรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ทางด้านการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.”
ครูได้รับรางวัลครูผู้สอนดีเด่น สาขาการงานอาชีพและเทคโนโลยี
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครูได้รับรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ทางด้านการศึกษาของสำนักงาน คณะกรรมการ สกสค. บุคลากรครูได้รับรางวัลหนึ่งแสนครูดี
พ.ศ. ๒๕๕๗ การพัฒนาโรงเรียนตามหลัก BBL (Brain-based Learning) โรงเรียนได้นำทฤษฎีเกี่ยวกับการพัฒนาสมองของมนุษย์ คือการนำควววามรู้ใหม่ๆด้านประสาทวิทยาศาสตร์ มาประยุกตืใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการของสมองแต่ละช่วงวัย เป็นการนำองค์ความรู้เรื่องสมองมาใช้เป็นฐานในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ด้วยการส่งคณะครูรับการอบรม มีแนวทางในการพัฒนาตามหลักกุญแจ ๕ ดอก คือ กุญแจดอกที่ ๑ สนามเด็กเล่น จัดเครื่องเล่นให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย ปรับพื้นสนามให้เป็นแหล่งเรียนมีสีสัน กุญแจดอกที่ ๒ ห้องเรียน เปลี่ยนห้องเรียน เพื่อเปลี่ยนสมองของเด็กสิ่งแวดล้อมที่แปลกใหม่ มีความเข้มข้น มีสีสัน จะช่วยกระตุ้นให้เด็กสามารถเรียนรู้และจดจำเนื้อหาที่เรียนได้ดีขึ้นกุญแจดอกที่ ๓ ครูจัดกระบวนการเรียนรู้กระตุ้นกระบวนการเรียนรู้ของเด็ก โดยใช้กิจกรรมต่างๆ ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้สมองของเด็กตื่นตัว สนใจ ท้าทายการคิด ค้นหา ลองผิด ลองถูก เรียนรู้ และจดจำกุญแจดอกที่ ๔ หนังสือเรียนใช้หนังสือและใบงาน ที่ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับการทำงานของสมอง เพื่อช่วยกระตุ้นสมองของนักเรียน ฝึกให้เด็กคิดทีละขั้นตอน และนำทักษะและความรู้ในแต่ละขั้น มาประกอบกันเป็นความเข้าใจ (concept) กุญแจดอกที่ ๕ สื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้ ใช้สื่อและนวัตกรรมที่แปลกใหม่
พ.ศ. ๒๕๕๘ โรงเรียนเปิดสอนโปรแกรมห้องเรียนอัจฉริยภาพ Gifted Classroom ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งการจัดการเรียนรู้ที่เน้นภาษาอังกฤษ เรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ด้วยภาษาอังกฤษ (Intensive English program) ทั้งนำหลักสูตรสะเต็มศึกษา(STEM Education) มาเป็นแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S เทคโนโลยี T วิศวกรรมศาสตร์ E คณิตศาสตร์ M มุ่งนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน นอกจากนี้โรงเรียนยังร่วมมือกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท) ในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์และการนำไปใช้
ปีการศึกษา ๒๕๖๐ โรงเรียนได้รับคัดเลือกเป็นโรงเรียนคุณภาพด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีตามมาตรฐาน สสวท. (SMT) ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนเพียง ๒ โรงเรียนในจังหวัดสระบุรีที่ได้รับการคัดเลือกครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนที่มีการส่งเสริมจัดการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ ๔ ด้าน คือ
๑. ด้านคุณภาพนักเรียน ต้องมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีที่ทดสอบด้วยเครื่องมือมาตรฐาน และมีคะแนนเฉลี่ยของการสอบ O-NET วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์สูงกว่ารอบปีที่ผ่านมา
๒. ด้านการจัดการเรียนการสอน มีหลักสูตรสถานศึกษาที่มุ่งเน้นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และ คอมพิวเตอร์ และมีหลักสูตรสถานศึกษาที่ตอบสนองความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง สอดคล้องกับท้องถิ่นและสากล
๓. ด้านคุณภาพครู ครูเลือกใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ICT) ในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ใช้หนังสือ สื่อในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีตามแนวทางสะเต็มศึกษา
๔. ด้านการบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี มีสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพระดับสากลเพื่อให้นักเรียนได้เรียนอย่างเพียงพอ มีเครือข่ายอินเตอร์ในการบริหารและจัดการเรียนรู้เพื่อสืบค้นข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
โรงเรียนได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสระบุรี ให้ร่วมโครงการพัฒนาเด็กปฐมวัย (๓-๕) ปี อย่างมีคุณภาพด้วยการจัดประสบการณ์เรียนรู้ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสะเต็มศึกษา ดำเนินการโดยสำนักงานส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
ปีการศึกษา ๒๕๖๒ โรงเรียนได้ดำเนินโครงการใช้ iPad Classroom จัดซื้อเครื่อง iPad จำนวน ๒๕ เครื่อง จัดทำห้องเรียน iPad จำนวน ๑ ห้องเรียน เพื่อนักเรียนได้ใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้บูรณาการ ครูผู้สอนมีเครื่องมือ สื่ออุปกรณ์ในการเรียนการสอนได้อย่างหลากหลายเต็มศักยภาพ
โรงเรียนดำเนินโครงการห้องเรียน Smart Classroom ด้วยการติดตั้งโทรทัศน์ในห้องเรียน ห้องประกอบทุกห้องตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ พร้อมมีการติดตั้งระบบ Wifi ความถี่ ac1200 gigabit รองรับ Internet Fiber optic ความเร็ว upload 1Gbps download 500 Mbps เป็นแห่งแรกของอำเภอแก่งคอย เพื่อนำ Digital Technology มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนและเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริง
โรงเรียนดำเนินโครงการ School one โรงเรียนได้นำระบบ School one มาใช้ในการบริหารโรงเรียน school One เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับงานในโรงเรียน ซึ่งได้รวมเอาระบบสำคัญๆที่จำเป็นต้องการใช้งานในโรงเรียนเข้ามาไว้ในระบบนี้เพียงระบบเดียว บัตร ๑ ใบ ใช้ได้ทุกระบบ บัตรนักเรียนเพียง ๑ ใบ จะสามารถใช้ได้ทุกบริการ เช่นระบบ Check-in out ระบบโรงอาหาร ระบบสหการ และระบบห้องสมุด โดยที่แต่ละวันระบบจะสรุปข้อมูลทุกด้านให้โรงเรียนทราบ ระบบนี้พัฒนาบน Android Application และเชื่อมต่อระบบหลักผ่าน Cloud System ซึ่งได้เริ่มใช้มาตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2562 นักเรียนทุกคนสามารถใช้งานบัตรได้อย่างสะดวก และเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ไม่ต้องพกเงินสด ร้านค้าสามารถให้บริการนักเรียนได้รวดเร็ว ผู้ปกครองสามารถดูข้อมูลการซื้ออาหารได้จากเมนูข้อมูลบุตร บัตรประจำตัวนักเรียนเช็คเวลาเข้าเรียน และเวลากลับ ซื้ออาหารกลางวัน ซื้อขนม ซื้ออุปกรณ์การเรียน โดยการเติมเงินเข้าบัตรตามจำนวนที่ต้องการรวมถึงการเช็คยอดเงินคงเหลือในบัตรได้
โรงเรียนจัดการเรียนการสอน KidBright กับภาษา Coding KidBright เป็นบอร์ดสมองกลฝังตัวที่ติดตั้งจอแสดงผลและมีเซนเซอร์ที่สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมกับวิธีการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบต่อบล็อกเข้าด้วยกัน ทำให้การเรียนรู้การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ผ่าน KidBright ทำได้ง่าย รวดเร็ว และเห็นผลการทำงานได้ทันที การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์จึงเป็นพื้นฐานสำคัญให้เข้าใจเทคโนโลยีและยังช่วยส่งเสริมการคิดแบบมีเหตุมีผล ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และช่วยให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานในสิ่งที่ต้องการได้ นักเรียนสามารถเข้าถึงการ "เล่น" ผสมกับการ "เรียนรู้" ผ่านบอร์ด KidBright นี้จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นทางดิจิทัล (Digital Confidence) ประกอบด้วยบอร์ด KidBright ซึ่งนักเรียนสามารถใช้ในการเรียนรู้ Coding ได้ถึงระดับมัธยมศึกษา
โรงเรียนดำเนินการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องเรียนทุกห้องเพื่อช่วยกำจัดฝุ่นละออง และชื้อโรคต่าง ๆ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โรงเรียนได้ติดตั้งเครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C (KIOSK Upper Room) ทุกห้องเรียน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส SARs-CoV-2 ซึ่งจากผลงานวิจัยหลายองค์กรรับรองว่าด้วยคุณสมบัติของ Upper Room UVGI ซึ่งฉายรังสี UV-C สามารถทำลายสายพันธุกรรมได้ทั้ง DNA Virus และ RNA Virus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค COVID-19 ในภาพรวมจะทำให้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ในเด็กอีกหลายโรคด้วย เมื่อพิจารณาถึงอันตรายของรังสี UV-C นั้น Kiosk Upper Room ติดตั้งสูงจากพื้นไม่ต่ำกว่า 2.2 เมตร และปรับมุมให้ฉายรังสี UV-C หงายขึ้นไปบนเพดาน 10-15 องศา จึงมีความเสี่ยงต่ำมากที่จะเกิดอันตรายต่อเด็กนักเรียน โดยได้ทำการวัดค่ารังสี UV-C หลังการติดตั้งทุกห้องเรียน
จากงานวิจัยหลายองค์กรรับรองว่าด้วยคุณสมบัติของ Upper Room UVGI ซึ่งฉายรังสี UV-C สามารถทำลายสายพันธุกรรมได้ทั้ง DNA Virus และ RNA Virus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค COVID-19 ในภาพรวมจะทำให้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ในเด็กอีกหลายโรคด้วย
เมื่อพิจารณาถึงอันตรายของรังสี UV-C นั้น Kiosk Upper Room ติดตั้งสูงจากพื้นไม่ต่ำกว่า 2.2 เมตร และปรับมุมให้ฉายรังสี UV-C หงายขึ้นไปบนเพดาน 10-15 องศา จึงมีความเสี่ยงต่ำมากที่จะเกิดอันตรายต่อเด็กนักเรียน โดยบริษัท Kiosk ได้ทำการวัดค่ารังสี UV-C หลังการติดตั้งทุกห้องเรียน
#โรงเรียนแสงวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน ในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ที่เน้นเรื่องสุขภาวะในช่องปาก และการป้องกันไม่ให้เกิด NCD โรคที่ไม่ติดต่อ
"โครงการเด็กไทยไม่กินหวาน" โรงเรียนแสงวิทยา Thai PBS 25 พฤศจิกายน 2562
Nation ช่อง 22 ขยี้ข่าวเช้าเสาร์-อาทิตย์
วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2562
แสงวิทยา : โรงเรียนอ่อนหวาน 1 ในเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวานจังหวัดสระบุรี